คำถามที่พบบ่อย

เมื่อเปลี่ยนยางใหม่ 4 เส้น ตั้งแต่วันนี้ ให้คุณขับขี่ปลอดภัย มั่นใจไปกับกู๊ดเยียร์ กับทุกเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นยางบาด บวม แตก หรือโดนตำ ไม่ว่าด้วยสาเหตุอันใดในการขับขี่ รับประกันเปลี่ยนให้ฟรีทันทีภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน สำหรับการเกิดเหตุภายใน 120 วัน* นับตั้งแต่วันที่ซื้อยางชุดแรก จากตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ

– การรับประกันยางชำรุด 120วัน* ซึ่งครอบคลุมยางชำรุดที่เกิดจากการใช้งานตามปกติ เช่น ยางโดนของมีคมบาดหรือตำจนไม่สามารถซ่อมแซมได้  แก้มยางบวมจากการกระแทกตกหลุมอย่างรุนแรง  ยางปริแตก  ล่อน  หรือแม้กระทั่งเกิดรอยบาดลึกจนถึงโครงสร้างยาง จากการเบียดฟุตบาธ เป็นต้น จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถใช้งานต่อได้  (ในกรณียางถูกของมีคมตำแต่สามารถปะได้ ทางผู้ใช้งานจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ซึ่งในกรณีบาดแผลใหญ่หรือเกิดความเสียหายที่กระทบต่อโครงสร้างหลักของยาง จนไม่สามารถทำการปะหรือซ่อมแซมได้ ทางบริษัทฯ จึงจะทำการเปลี่ยนเส้นใหม่ให้)

– เมื่อเปลี่ยนยาง 4 เส้น (ต่อรถ 1 คัน ใน 1 ใบเสร็จ) ของกู๊ดเยียร์ เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป โดยทางบริษัทฯ จะทำการรับประกันยาง ชำรุด 120วัน* นับจากวันที่ในใบเสร็จรับเงินที่ซื้อยางครั้งแรก (ยางชุดแรก) เท่านั้น

– การเคลมยางในการรับประกันนี้ ผู้ขอรับประกันจะต้องนำยางที่เสียหายพร้อมสำเนาบัตรประชาชนหรือใบขับขี่มาแสดงต่อร้านค้าที่ท่านซื้อยาง และต้องแนบใบเสร็จรับเงินเพื่อการตรวจสอบข้อมูลยาง (ยี่ห้อ/รุ่น/ขนาด) และ ข้อมูลรถ (ยี่ห้อ/รุ่นรถ/ทะเบียนรถ) ให้ตรงกับข้อมูลที่ระบุไว้ในใบเสร็จรับเงิน และต้องลงทะเบียนในระบบรับประกันของทางบริษัทฯ ก่อนเท่านั้น

– การเปลี่ยนยางเส้นใหม่ บริษัทฯ จะเปลี่ยนยาง ยี่ห้อ รุ่น และขนาดเดียวกันกับยางเดิมที่ชำรุด ยกเว้น กรณีไม่มียางรุ่น ยี่ห้อ และ ขนาดเดิม ทางบริษัทฯ จะใช้ยาง ยี่ห้อ หรือ รุ่นอื่นทดแทน และหากยางใหม่มีราคาสูงกว่า ผู้ขอรับประกันจะต้องจ่ายเงินส่วนต่างที่เกิดขึ้น โดยคิดจากราคา ณ วันที่เปลี่ยนยางใหม่ กรณียางชำรุดและมีการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ ระยะการรับประกัน 120วัน* ยังคงนับจากวันที่ในใบเสร็จรับเงินที่ซื้อยางครั้งแรกเท่านั้น

– การเปลี่ยนยางเส้นใหม่ไม่รวมถึงค่าบริการถอดล้อ ใส่ล้อ ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ และเติมลมยางไนโตรเจน โดยผู้ขอรับประกันจะต้องคืนยางที่ชำรุด ไว้ให้กับทางตัวแทนจำหน่าย เพื่อส่งกลับให้กับทางบริษัทฯ

*รับประกันเปลี่ยนยางฟรี 120 วัน สำหรับยางกู๊ดเยียร์ทุกรุ่น

** บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่ร่วมรายการรับประกันเปลี่ยนยางฟรี 120วัน สำหรับยางที่หมดสภาพการใช้งานแล้ว ทั้งนี้ยางหมดสภาพการใช้งาน หมายถึง การที่ยางทุกเส้นไม่ว่าจะผลิตเมื่อใดก็ตาม เกิดการสึกหรอจากการใช้งานตามปกติจนถึงจุด Tread Wear Indicator

*** ในกรณียางชุดที่ซื้อไป ถูกทำการดัดแปลงแก้ไขใดๆ อันส่งผลต่อโครงสร้างของยางจุดใดจุดหนึ่งหรือโดยรวม ให้ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการรับประกันของทางบริษัท ฯ

ท่านควรมองเรื่องการซื้อยางรถยนต์ใหม่เมื่อใด?

เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เพลิดเพลินที่สุด สิ่งสำคัญคือท่านต้องเปลี่ยนยางที่สึกหรอ แรงฉุดสูงสุดช่วยให้รถของท่านสนองตอบการบังคับรถให้ราบรื่นและการขับขี่อย่างมั่นใจ

ท่านควรตรวจดูดอกยางรถของท่านในตำแหน่งต่างๆ และมั่นใจว่าร่องยางทั้งด้านใน ด้านนอกและตรงกลางของยางแต่ละเส้นได้รับการตรวจสอบด้วยเนื่องจากยางแต่ละด้านอาจสึกไม่เท่ากันเพราะการตั้งศูนย์ล้อไ ม่ถูกต้องและ/หรือความดันลมยางต่ำ สำหรับการขอความช่วยเหลือ ท่านสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายยางกู๊ดเยียร์เพื่อการตรวจสอบโดยผู้ชำนาญการของเราโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ผมควรพิจารณาอย่างไร ในการเลือกยางใหม่

  • จงเลือกยางที่ดียอดเยี่ยมจากการทดสอบการห้ามล้อและการบังคับรถ
  • ให้ประเด็นการสึกหรอของดอกยาง การขับขี่ที่สะดวกสบาย การต้านการพลิกคว่ำ
    เป็นข้อพิจารณาการเลือกยางของท่านให้แคบเข้า
  • การเลือกยางรถยนต์ของท่านจะขึ้นอยู่กับประเด็นของพื้นที่ที่ท่านพักอาศัยอยู่ อากาศและภูมิประเทศ
    สมรรถนะที่ท่านคาดหวังและสิ่งที่ต้องการให้รถยนต์ของท่านเป็น

 

ผมควรสูบลมยางด้วยปริมาณลมเท่าใด ?

การสูบลมยางเป็นส่วนสำคัญที่สุดเดี่ยวๆในการบำรุงรักษายาง
ปริมาณความดันลมยางที่ปรากฏบนแก้มยางด้านข้างเป็นพิกัดสูงสุดที่อนุญาตให้สูบได้ซึ่งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นปริมาณความดั
นลมยางที่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับรถของท่าน
จงใช้ความดันลมยางที่แนะนำโดยผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งพิมพ์บนแผ่นประตูรถของท่านหรือในคู่มือการใช้รถยนต์ของท่าน

ควรตรวจสอบลมยางรถยนต์ของท่านเมื่อยางอยู่ในอุณหภูมิปกติ (เช่น เมื่อท่านขับรถของท่านเป็นระยะทางไม่ถึงหนึ่งไมล์หรือหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นหลังการขับขี่) จงใช้เกจวัดที่ได้มาตราฐานในการวัดลมยาง
พึงระลึกไว้เสมอว่าเป็นธรรมชาติของยางเรเดียลที่จะนูนขึ้นเล็กน้อยในแก้มยางเมื่อความดันลมยางถูกต้องเหมาะสม จงตรวจสอบและปรับลมยางทุกๆสองสามสัปดาห์ก่อนเดินทางไกลหรือเมื่อมีการบรรทุกหนัก
และต้องไม่ลืมตรวจดูยางอะไหล่ด้วย และศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์สามารถให้คำปรึกษาได้หากท่านมีคำถามเกี่ยวกับยาง

การตั้งศูนย์ล้อคืออะไร ?

การตั้งศูนย์ล้อรถยนต์
ถือว่าถูกต้องเมื่อระบบกันสะเทือนและส่วนประกอบอุปกรณ์การเลี้ยวทั้งหมดจะส่งเสียงและเมื่อการประกอบล้อและยางตรงและเป็นจริง การตั้งศูนย์ล้อเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้การสึกของดอกยางเท่ากันและการขับขี่สะดวกสบาย
การสึกของยางล้อหน้าและล้อหลังที่ไม่เท่ากัน หรือมีการเปลี่ยนการบังคับรถหรือการขับขี่รถของท่าน (เช่น เกิดการดึงไปอีกด้านหนึ่ง) เป็นสัญญาณของการบอกว่าการตั้งศูนย์ล้อนั้นผิด

รถยนต์ในปัจจุบันจำนวนมากติดตั้งอุปกรณ์กันสะเทือนด้านหลังที่สามารถปรับการตั้งศูนย์ล้อได้
รถของท่านอาจจำเป็นต้องตั้งศูนย์ล้อด้านหน้าหรือทั้งหมดสี่ล้อขึ้นอยู่กับอาการของรถที่ท่านพบ
ค่าใช้จ่ายปานกลางสำหรับการตั้งศูนย์ล้อรถยนต์ของท่านคุ้มค่าในการช่วยประหยัดเงิน
เพิ่มสมรรถนะรถและความสะดวกสบายในการขับขี่ของท่าน
ผู้ค้าปลีกยางกู๊ดเยียร์มีผู้ชำนาญการในการให้บริการการตั้งศูนย์ล้อและระบบกันสะเทือน

ทำไมผมถึงต้องถ่วงล้อยาง?

การถ่วงล้อยางที่ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวขึ้น
ยางที่ไม่สมดุลจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในตัวรถยนต์ของท่านและทำให้ท่านเหน็ดเหนื่อยในการขับขี่
ทำให้ยางสึกก่อนเวลาและการสึกหรอของระบบกันสะเทือนในรถของท่านโดยไม่จำเป็น
ยางต้องได้รับการถ่วงดุลในทันทีที่พบว่ามีการสั่นสะเทือนของรถ “หรือพวงมาลัยสั่น”
การสั่นสะเทือนอาจเกิดจากการตั้งศูนย์ล้อผิดหรือปัญหาของเครื่องยนต์ก็เป็นได้
ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ท่านนำรถของท่านไปตรวจสอบที่ผู้ค้าปลีกย่อยยางกู๊ดเยียร์เพื่อให้ผู้ชำนาญการดูอาการและซ่อมแซมเพิ่มเติม

ง่ายหรือไม่ในการใส่ยางที่ล้อ ผมสามารถทำด้วยตัวเองได้หรือไม่?

ท่านไม่ควรใส่ยางด้วยตนเอง การใส่ยางต้องอาศัยประสบการณ์และเครื่องมือที่ถูกต้อง ถ้าหากท่านใส่ยางรถด้วยตนเอง นั่นหมายถึงท่านกำลังเสี่ยงต่อการบาดเจ็บสาหัสพร้อมทั้งความเป็นไปได้ที่จะทำให้ยางและขอบล้อรถของท่านเกิดความเสียหาย

ปลอดภัยหรือไม่ที่จะซ่อมยาง?

ถ้าหากยางแบนและไม่สามารถใช้งานต่อได้
ท่านต้องถอดยางออกจากล้อเพื่อตรวจสอบภายในยางโดยละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่ายางไม่เสียหาย
รถแม้จะวิ่งในระยะสั้นขณะที่ยางแบบมักจะทำให้ยางเสียหายเกินกว่าที่จะซ่อมได้ รอยเจาะ รูตะปู หรือรอยตัด
ที่ใหญ่ถึง ¼ นิ้ว (จำกัดบริเวณดอกยาง)
อาจให้บุคคลากรที่ผ่านการอบรมซ่อมเป็นที่พอใจได้โดยใช้วิธีการทางอุตสาหกรรมที่ได้รับการอนุมัติ รอยเจาะที่ใหญ่กว่า ¼ นิ้ว หรือเกิดที่แก้มยางจะซ่อมไม่ได้

นอกจากนี้ ห้ามซ่อมยางที่สึกที่ความลึกดอกยางมากกว่า 1.66 มม. ดีที่สุด คือท่านต้องมียางอะไหล่สำรองไว้
จงตรวจความดันลมยางเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าถูกต้องและอยู่ในสภาพที่ดี
และต้องตรวจสอบแก้มยางอะไหล่ด้วยว่าความดันลมยางถูกต้องหรือไม่ตลอดทั้งขีดจำกัดระยะทางและเข็มไมล์

ผมควรสลับยางด้วยตนเองหรือไม่ ?

การสลับยางเป็นประจำและถูกต้อง ช่วยให้การสึกของยางรถยนต์ของท่านเป็นไปตามปกติ
ยางรถยนต์สำหรับทุกฤดูกาลควรสลับตามรูปแบบ “Modified X” ส่วนยางที่นำไปใช้ที่¼ นิ้ว ให้ไขว้ในทางตรงกันข้ามของรถ
ยางที่เหลือสองเส้นให้ย้ายจากเพลาขับเคลื่อนไปยังเพลาที่หมุนอิสระด้านเดียวกันของรถ

วิธีนี้จะทำให้ดอกยางสึกเท่ากันและเป็นไปตามปกติทั้งสี่ล้อ ข้อยกเว้น ได้แก่เมื่อมีการใช้ยางที่ดอกยางออกแบบ “ระบุทิศทาง”
ซึ่งยางเหล่าควรอยู่ด้านเดียวกันของรถและสลับตรงข้างหน้าและข้างหลัง ถ้าหากรถของท่านเป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
เราขอแนะนำให้ท่านไขว้ยางทั้งคู่กับตำแหน่งเพลาใหม่

การสลับยางควรทำทุกๆ 10,000 กม. สำหรับรถยนต์ธรรมดาและทุกๆ 6,000 กม.สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ
จงตรวจสอบจากคู่มือการใช้รถยนต์ของท่านสำหรับการสลับยางที่แนะนำโดยผู้ผลิต การสลับยางครั้งแรกสำคัญที่สุด
เมื่อสลับยาง ต้องปรับความดันลมยางด้วยตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ด้วย

อุปกรณ์ยางดั้งเดิมที่ติดรถยนต์มามีอายุนานเท่าไร?

เนื่องจากการใช้งานของยางรถยนต์ รูปแบบการสร้าง ส่วนประกอบดอกยาง การใช้รถ สภาพทางภูมิศาสตร์
และพฤติกรรมการขับขี่แตกต่างกันไป
เป็นการยากที่กู๊ดเยียร์จะให้ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับการคาดการณ์ระยะทางการใช้ยางที่จัดให้ที่เป็นอุปกรณ์ดั้งเดิม

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการสึกของยาง ท่านสามารถปรึกษาศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์
ใกล้บ้านท่านเพื่อให้ตรวจสอบเพื่อประเมินต่อไป

จะทราบได้อย่างไรว่าต้องการยางใหม่เมื่อใด?

ยางส่วนใหญ่จะมีตัวชี้วัดความสึกของดอกยางติดที่ดอกยาง
เมื่อดอกยางสึกถึงระดับที่ท่านสามารถมองเห็นแท่งชี้วัดความสึกแล้ว นั่นหมายถึงเวลาแล้วที่ท่านต้องเปลี่ยนยางใหม่

พฤติกรรมการขับรถมีผลกระทบต่ออายุการใช้งานของยางหรือไม่?

พฤติกรรมการขับขี่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของยางอย่าแน่นนอน โดยรายละเอียดข้างล่างนี้เป็นคำแนะนำเพื่อช่วยยืดอายุยาง

  • อย่าขับรถด้วยความเร็ว เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงยางจะร้อนมาก
    ความร้อนนี้จะเพิ่มอัตราการสึกหรอและลดความคงทนของยาง
  • จงหลีกเลี่ยงการเลี้ยวอย่างรวดเร็วบริเวณทางโค้งและรอบๆมุม หรือออกตัวเร็วหรือหยุดรถทันทีทันใด
  • จงอย่าขับรถบนขอบทางที่ลาดแล้วหรือขอบ หรือหลุมหรือแอ่งบนถนน หรือสิ่งกวาดขวางอื่นๆ

จำเป็นต้องเปลี่ยนยางปัจจุบันด้วยยางใหม่ที่มีขนาดเดียวกันหรือไม่?

ท่านไม่ควรเลือกยางที่มีขนาดเล็กกว่ายางเดิมที่มากับรถของท่าน
ยางที่เปลี่ยนควรมีขนาดเดียวกันกับยางที่กำหนดเพื่อรถของท่าน (หรือตัวเลือกที่อนุมัติ)
ตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ของท่านหรือตัวแทนจำหน่ายยางกู๊ดเยียร์ของท่าน

เมื่อซื้อยางใหม่เพียงสองเส้น ควรใส่ที่ล้อหน้าหรือไม่?

เมื่อนำยางเรเดียลไปใช้กับยางแบบผ้าใบ (Bias) หรือยางผ้าใบแบบใช้เข็มขัดรัดหน้ายาง (Bias Belted Tyre) ในรถคันเดียวกัน ต้องใส่ยางเรเดียลที่ล้อเพลาหลังเสมอ ต้องไม่ใส่ยางเรเดียลผสมกับยางผ้าใบ(Bias-Ply Tyre) บนเพลาเดียวกัน
เมื่อท่านเลือกยางคู่หนึ่งเพื่อเปลี่ยนที่เป็นขนาดและการสร้างแบบเดียวกันกับยางเดิมของรถ
เราขอแนะนำให้ท่านใส่ยางทั้งสองเส้นบนเพลาหลัง ถ้าเป็นยางใหม่เดี่ยว
ควรใส่คู่กับยางบนเพลาหลังที่มีความลึกดอกยางลึกที่สุด

ยางใหม่มีการดูแลเป็นพิเศษหรือไม่?

ยางใหม่ของท่านอาจทำงานแตกต่างจากยางที่นำมาเปลี่ยน ฉะนั้น
จงขับขี่ด้วยความระมัดระวังขณะที่ท่านขับขี่เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับสมรรถนะของยางและการบังคับ
จงใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเบรก เร่งความเร็ว เข้าโค้งหรือขับขี่ขณะฝนกำลังตก
ช่วงนี้จะเป็นเวลาที่ท่านจะสังเกตเห็นความแตกต่างของยาง

ควรใช้ยางต่างชนิด ผสมกัน สำหรับรถของผมหรือไม่?

ยางที่กำหนดขนาด การสร้าง และขั้นการสึกหรอต่างกันอาจมีผลต่อการบังคับและความเสถียรของรถ
เพื่อสมรรถนะที่ดีทีสุดตลอดเวลา เราขอแนะนำว่าขนาดของยางควรเป็นขนาดเดียวกัน การสร้างแบบเดียวกัน
(ทั้งยางเรเดียลและไม่ใช่) และอัตราความเร็วเดียวกัน ถ้าหากยางที่ใส่ในรถคันเดียวกันเป็นยางที่มีอัตราความเร็วต่างกัน ขนาด
ชนิดและอัตราความเร็วอย่างเดียวกันจำเป็นต้องใส่บนเพลาเดียวกัน
ยางที่มีอัตราความเร็วต่ำควรเป็นปัจจัยที่จะต้องพิจารณาความเร็วของรถยนต์ที่เกี่ยวกับยางที่สามารถอนุญาตได้
ท่านต้องไม่ใส่ยางเรเดียลผสมกับยาง Bias-ply บนเพลาเดียวกัน

ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ามีการสั่นสะเทือน?

การสั่นสะเทือนเป็นสัญญาณบอกว่ารถของท่านมีปัญหาและต้องการการแก้ไข ยาง
ระบบพวงมาลัยและระบบกันสะเทือนควรได้รับการตรวจสอบเพื่อพิจารณาหาสาเหตุและแก้ไขการสั่นสะเทือน ถ้าไม่มีการแก้ไข
การสั่นสะเทือนอาจเป็นสาเหตุให้การสึกของยางและระบบการสั่นสะเทือนเพิ่มมากขึ้นและเป็นอันตรายต่อท่านด้วย

หากยางแบบ การรับประกันบริษัทกู๊ดเยียร์ คุ้มครองหรือไม่

เนื่องจากสาเหตุของยางรั่วมีหลายสาเหตุ ขอให้ท่านติดต่อ ตัวแทนจำหน่ายยางกู๊ดเยียร์ (หรือดูในหน้ารับประกัน)
เพื่อขอให้ทางตัวแทนจำหน่ายส่งเข้ามาตรวจสอบ
สาเหตุบางอย่างที่ทำให้ยางรั่วทันทีหรือเป็นไปอย่างช้าๆ ได้แก่

  • อันตรายบนท้องถนน (ยางเกิดรูเจาะ รอยตัด ความเสียหายจากการกระแทกยางใน วัสดุที่เป็นชั้นหรือยางของแก้มยาง)
  • วาล์วเติมลมหรือการรั่วของแกนวาล์ว (ก้านยางที่เสียหายหรืออายุการใช้งานนานหรือแกนลิ้นที่หลวมหรือเสียหาย)
  • การรั่วจากบริเวณที่ใส่ลูกปัด (ล้อพอกเป็นสนิมเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้การปิดช่องระหว่างครีบล้อรถและลูกปัดล้อรถไม่สนิท
    บริเวณใส่ลูกปัดเสียหายจากการใส่และถอดยางโดยบังเอิญ
    มีวัสดุแปลกปลอมระหว่างบริเวณครีบขอบล้อและลูกบัดล้อและบริเวณที่ใส่ลูกปัด การคดงอของครีบขอบล้อ)

เครื่องหมายบนแก้มยางยางรถของผมมีความหมายอย่างไร

ใช้แผนผังข้างล่างหาขนาดยางรถยนต์ของท่านและข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับยางรถยนต์ของท่าน

  • ขนาดของยางเป็น มม.
  • อัตราความสูงต่อความกว้างเป็นร้อยละ (%)
  • โครงสร้างยาง (R = ยางเรเดียล)
  • เส้นผ่านศูนย์กลางขอบล้อเป็นนิ้ว
  • นน. บรรทุกสูงสุด (ดรรชนีการบรรทุก)
  • อัตราความเร็ว
  • ยางไร้ยางใน
  • ตำแหน่งของตัวชี้วัดความสึกของดอกยาง
  • เครื่องหมายและหมายเลขที่อนุมัติโดย ECE
  • ขีดความสามารถการขับขี่ในฤดูหนาวภายใต้สภาพถนนที่มีโคลนและหิมะ (M & S)
  • วันผลิต (สัปดาห์/ปี)
  • สัญลักษณ์กรมการขนส่ง ที่ต้องปฏิบัติตาม
  • รหัสผู้ผลิตของกรมการขนส่ง
  • ประเทศผู้ผลิต
  • ชื่อทางการค้า
  • รายละเอียดการสร้างยาง (กรมการขนส่ง)
  • เครื่องหมายบรรทุกและความดันลมยาง
  • ชนิดของยาง (เรเดียล)
  • เครื่องหมายซึ่งกฎระเบียบที่เป็นข้อมูลผู้บริโภคของสหรัฐฯต้องการ (ชั้นของคุณภาพ)

การบำรุงรักษายาง: ทำอย่างไรจึงจะสามารถยืดสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายในการขับขี่ได้อย่างสูงสุด?

  • ตรวจสอบความดันลมยางของท่านทุกๆ 3,000 ไมล์/4,500 กม.
    เพื่อให้การขับขี่รถของท่านเป็นไปอย่างราบเรียบและสม่ำเสมอทำให้การใช้น้ำมันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
    หมายเหตุ:
    เมื่อยางเย็นลงท่านควรสูบลมตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ของท่านที่พิมพ์บนแผ่นประตูรถหรือคำแนะนำในคู่มือการใช้รถของท่าน ห้ามสูบลมเกินพิกัดความดันลมยางที่จำกัดสูงสุดซึ่งประทับบนแก้มยาง1
  • สลับยางทุกครั้งที่ 6,000-8,000 ไมล์/10,000-13,000 กม. เพื่อให้ดอกยางสึกเท่ากัน
  • ตรวจสอบการตั้งศูนย์ล้อตามที่กำหนดในคู่มือการใช้รถของท่านหรือเมื่อท่านมีความรู้สึกว่าล้อรถมีการ “ดึง”
  • ตรวจยางรถยนต์ของท่านด้วยสายตาเพื่อหาความผิดปกติในการสึกของดอกยางเนื่องจากการสึกของดอกยางอาจบ่งบอกปัญหาเกี่ยวกับการตั้งศูนย์ล้อหรือการสูบลมยางได้
  • ถ้าท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ขอแนะนำให้ท่านไปพบกับเจ้าหน้าที่ของเรา ณ จุดบริการลูกค้า ได้
  1. คำขวัญของสมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ “Be Tyre Smart”

ความดันลมยาง: ทำไมจึงเป็นสิ่งสำคัญ?

  • ความดันลมยางที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้เกิดปัญหามากมาย
    ตั้งแต่ทำให้ดอกยางสึกไม่เท่ากันและเร็วมากจนถึงทำให้โครงสร้างของยางเสียหายและรถกินน้ำมัน
    การสูบลมยางรถยนต์ของท่านที่ความดันลมยางซึ่งถูกต้องเหมาะสมจะช่วยให้รถของท่านประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นทั้งประหยัดเงินของท่านที่ปั๊มน้ำมันด้วย
    จงตรวจสอบความดันลมยางของท่านอย่างน้อยเดือนละครั้งหรือก่อนออกเดินทางระยะไกล
  • บริษัทกู๊ดเยียร์ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบความดันลมยางรถยนต์ของท่านเป็นประจำทุกเดือนหรือก่อนออกเดินทางระยะไกล ควรสูบลมยางตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ที่พิมพ์บนแผ่นประตูหรือที่ระบุในคู่มือการใช้รถยนต์ของท่าน
  • การบำรุงรักษารถยนต์และยางโดยถูกต้องเหมาะสมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเนื่องจากจะทำให้สมรรถนะการขับขี่สูงสุด ประหยัดเงินและน้ำมันได้อย่างมากมาย

 

การจัดเตรียมรถเพื่อการเดินทางไกล

จงตรวจสอบ

  • ความดันลมยางรถยนต์การขับขี่ที่ราบเรียบจะเริ่มจากยางรถยนต์ของท่าน ดังนั้น
    จงตรวจสอบความดันลมยางก่อนออกเดินทางอย่างน้อยที่สุดเดือนละครั้งหมายเหตุ:
    ควรหมั่นตรวจความดันลมยางเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อยางอยู่ในอุณหภูมิปกติ
    ตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ที่พิมพ์ไว้บนแผ่นประตูรถหรือคู่มือการใช้รถของท่าน
    ห้ามสูบลมเกินพิกัดความดันลมยางที่ประทับไว้ให้ทราบบนแก้มยาง
  • หม้อกรองอากาศการเปลี่ยนหม้อกรองอากาศที่อุดตันจะช่วยให้ท่านประหยัดน้ำมันในการเดินทาง
  • หัวเทียน
    หัวเทียนที่สึกหรอหรือสกปรกอาจเป็นสาเหตุทำให้การสตาร์ทเครื่องรถยนต์ไม่สมบูรณ์ซึ่งอาจทำให้กินน้ำมัน –การเปลี่ยนหัวเทียนเหล่านี้ตามคำแนะนำในคู่มือการใช้รถของท่านจะทำให้สมรรถนะรถของท่านดีขึ้นและการขับขี่ที่สะ
    ดวกสบายกว่าสำหรับท่าน
  • ฝาปิดถังน้ำมันถ้าฝาปิดถังน้ำมันรถของท่านเสียหาย หลวม หรือสูญหาย
    น้ำมันระเหยออกไปทำให้ท่านสูญเสียน้ำมัน
  1. คำขวัญของสมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ “Be Tyre Smart”